6ประเด็นร้อน ความเข้มข้นของศึกพรีเมียร์ลีก มีให้มองเห็นเป็นประจำทุกอาทิตย์ แล้วก็ในสุดสัปดาห์นี้ก็มี ดาร์บี้ แมตช์ กรุงลอนดอน เป็นคู่ใหญ่
6ประเด็นร้อน ความเข้มข้นของศึกพรีเมียร์ลีก มีให้มองเห็นเป็นประจำทุกอาทิตย์ แล้วก็ในสุดสัปดาห์นี้ก็มี ดาร์บี้ แมตช์ กรุงลอนดอน เป็นคู่ใหญ่ให้แฟนคลับได้ติดตามกัน ส่วนทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆ ก็ลงฟาดหน้าแข้ง และก็มีความน่าดึงดูดใจไม่แพ้กัน
พวกเราไปดูกันเลยว่าแต่ว่าละคู่มีเรื่องมีราวราวอะไรบ้าง “ลิเวอร์พูล-เบิร์นลี่ย์” ลิเวอร์พูลทำผลงานเยี่ยมยอดในเกมนัดหมายเปิดสนามเมื่อบุกไปเอาชนะ นอริช 3-0 มาเกมนี้พวกเขาบางทีอาจยังไม่มี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่มีปัญหาเจ็บข้อเท้า มาห์เรซติเพื่อน
รวมทั้งเพิ่งจะกลับมาลงฝึกซ้อมได้เมื่อช่วงกึ่งกลางอาทิตย์ ส่วน เบิร์นลี่ย์ พ่ายแพ้คารังต่อ ไบรท์ตัน แต่ว่าสถิติการมาเยือนที่ แอนฟิลด์ 2 ครั้งหลังสุดทำเป็นดีเกินคาด ขณะนี้ “ลิเวอร์พูล” คือทีมสุดที่รักษาสถิติไม่แพ้คนไหนติดต่อกันเป็นเวลานานสุด (11 นัดหมาย)
โดยการเอาชนะได้ถึง 6 เกม แต่กระนั้น “เดอะ คลาเร็ตส์” คือทีมที่หยุดสถิติไม่มีพ่ายแพ้ที่บ้านของลิเวอร์พูล ไว้ที่ 68 นัดหมาย ด้วยชัยชนะ 1-0 เมื่อมกราคม โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ มีส่วนร่วมกับประตูที่ทำเป็นใส่ เบิร์นลี่ย์
โดยตรง 6 จาก 6 เกมหลังสุด ในศึกพรีเมียร์ลีก ที่เจอะกัน (5 ประตู 1 แอสซิสต์) ระหว่างที่ เบิร์นลี่ย์ แพ้ 8 จาก 10 นัดหมายหลังสุดในเกมลีก (ชนะ 2) และก็แพ้ต่อเนื่องกันมาแล้วถึง 4 เกม “แมนฯ ซิตี้-นอริช”
“แชมเก่า” แมนฯ ซิตี้ เปิดหัวฤดูกาลใหม่ไม่ดีเท่าใด บุกพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส 6ประเด็นร้อน ส่วน “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ก็แพ้มาเช่นกัน การพบกันที่บ้านของ “เรือใบสีฟ้า” เป็นเจ้าถิ่นที่ทำเป็นดีมากยิ่งกว่า โดย 3 นัดหมายหลังสุดชนะได้ทุกนัดหมาย
แถมกระหน่ำประตูใส่แขกรวมกันด้วยสกอร์ 14-1 หากทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แพ้อีกในเกมวันเสาร์นี้ จะก่อให้พวกเขาแพ้ทุกรายการติดต่อกัน 4 เกม (ตั้งแต่แมื่อแพ้เชลซี นัดหมายชิง แชมเปี้ยนส์ลีก,
แพ้เลสเตอร์ ศึก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ และก็สเปอร์ส ในเกมลีก) เป็นครั้งแรกนับจากสิงหาคมปี 2006 ถ้าหากชัยชนะเป็นของฝั่งแขก จะก่อให้ นอริช เป็นทีมที่ 2 ที่เป็นแชมป์ ลีก แชมเปี้ยนชิพ แล้วบุกชนะทีมแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก
6ประเด็นร้อน ต่อจาก บอร์นมัธ ที่ทำเป็นกับเชลซี (1-0) เมื่อฤดูกาล 2015/2016 อย่างไรก็แล้วแต่ การพบกันนับรวมทุกรายการ นอริช บุกเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้เพียงแค่ 2 ครั้งแค่นั้นจากปริมาณ 31 เกม(เสมอ7 แพ้22) ข่าวลิเวอร์พูล ล่าสุด
ส่วนทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆ ก็ลงฟาดหน้าแข้ง และก็มีความน่าดึงดูดใจไม่แพ้กัน
6ประเด็นร้อน “เซาธ์แฮมป์ตัน-แมนฯ ยูไนเต็ด” เซาธ์แฮมป์ตัน บุกแพ้ เอฟเวอร์ตัน ทั้งๆที่เป็นข้างออกนำไปก่อน ภาวะทีมฤดูกาลนี้ เปลี่ยนไปจำนวนมาก ไล่ตั้งแต่แนวรับจนถึงแนวรุก ส่วนฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ฟอร์มสุดหรูปูพรมอัด ลีดส์ ยูไนเต้ด ในศึกสงครามดอกกุหลาบ 5-1
เป็นงานหนักของ “เดอะ เซนต์ส” อย่างแท้จริงเมื่อมาพบกับ “เร้ด เดวิลส์” เมื่อการเล่นในบ้าน 10 เกมหลังสุดที่พบกันพวกเขาไม่สามารถที่จะเอาชนะได้เลยสักนัดหมาย(เสมอ4 แพ้6) โดยมีถึง 6 ครั้งที่เป็นข้างขึ้นนำไปก่อน
อดัม อาร์มสตรอง แผงหน้าที่คว้าตัวมาจาก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ได้โอกาสเป็นผู้เล่นผู้ที่ 3 ซึ่งสามารถทำคะแนนบนลีกสูงสุด 2 เกมแรกให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ต่อจาก มาโนโล่ กับเบียดินี่ ในปี 2017 รวมทั้ง อองรี กามาร่า ในปี 2005
ถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด หลีกหนีความปราชัยเกมนี้ได้ จะมีผลให้พวกเขาทาบสถิติบนลีกสูงสุดของ อาร์เซน่อล ที่ไม่แพ้เกมเยือนนานสุดที่ 27 นัดหมาย โดย “เดอะ กันเนอร์ส” เคยทำไว้ตอนระหว่างเมษายน 2003 ถึงเดือนกันยายน 2004
สำหรับเพื่อการพบกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ “ปีศาจแดง” ถล่มไปได้ 9-0 ซึ่งเป็นสถิติชนะสูงที่สุดร่วมในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก “วูล์ฟส์-สเปอร์ส” บรูโน่ ลาจ เปิดฉากพรีเมียร์ลีก กับ วูล์ฟส์ ด้วยความปราชัยต่อ เลสเตอร์
ช่วงเวลาที่ สเปอร์สทำผลงานเยี่ยมเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งในรายของ แฮร์รี่ เคน ก็กลับมาฝึกซ้อมกับทีมแล้ว น่าดึงดูดว่าเจ้าตัวจะได้ลงไปในสนามเกมนี้หรือไม่ การพบกันที่ โมลินิวซ์ กราวด์ เจ้าถิ่นชนะทีมเยือน
ได้เพียงแค่ครั้งเดียวจาก 7 เกมพรีเมียร์ลีก (เสมอ2 แพ้4) ซึ่งชัยชนะครั้งเดียวนั้นจำเป็นต้องย้อนไปถึงกุมภาพันธ์ ปี 2010 อย่างยิ่งจริงๆ นับจาก อดาม่า ตราโอเร่ ย้ายมาอยู่กับ วูล์ฟส์ เมื่อฤดูกาล 2018/19
เขาเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ได้ถึง 412 ครั้งสูงที่สุดในบรรดาผู้เล่นคนอื่นในพรีเมียร์ลีก การพบกันครั้งนี้ นูโน่ เอสปิลิโต้ ซานโต้ จะได้กลับมาเยือนทีมเก่า รวมทั้งก่อนหน้าที่ผ่านมาเขาได้เจอหน้ากับผู้จัดการทีมโปรตุกีส มาแล้ว 7 ครั้ง(มาร์โก ซิลวา, โชเซ่ มูรินโญ่) ปรากฏว่าเขาเอาชนะได้เพียงแค่ 2 ครั้งเพียงแค่นั้น (เสมอ3 แพ้2)
นับจากฤดู 2003/04 สเปอร์สไม่เคยเอาชนะ วูล์ฟส์ 2 เกมติดต่อกันได้เลย ซึ่งพบกันทีปัจจุบัน พวกเขาเอาชนะได้ 2-0 เมื่อฤดูกาลก่อน “อาร์เซน่อล-เชลซี” อาร์เซน่อล ผลงานระส่ำ เกมแรกบุกพ่ายแพ้ต่อสมาชิกใหม่ เบรนท์ฟอร์ด มาเกมนี้จะต้องพบกับเชลซี ที่ฟอร์มยอดเยี่ยม
รวมทั้งปัจจุบัน โรเมลู ลูกากู หอกตัวใหม่แต่ว่าหน้าเก่าก็พร้อมเปิดฉากสนาม ถึงแม้ผลงานโดยรวมไม่ดี แต่ว่าผู้ร่วมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เอาชนะเชลซี ในเกมลีกมาได้แล้ว 2 ครั้งติดต่อกัน แล้วก็หากเกมนี้เอาชนะได้อีกก็จะก่อให้พวกเขากำราบทีมคู่ปรปักษ์ร่วมเมือง 3 เกมติดเป็นครั้งแรกตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2004
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่แมื่อบุกเอาชนะ 2-1 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เมื่อพฤศจิกายน 2008 “เดอะ กันเนอร์ส” ไม่อาจจะเอาชนะเชลซี ได้เลยใน 10 เกมลีกหลังสุดยามที่เตะกันวันอาทิตย์ (เสมอ2 แพ้8) ทั้งยังเชลซี เอาชนะเกมเยือน ลอนดอน ดาร์บี้ ได้ตลอด 4 นัดหมายหลังสุด
ซึ่งครั้งสุดท้ายที่บุกชนะคู่ต่อสู้ร่วมเมือง 5 ครั้งติดได้นั้นเป็นตอนระหว่างเดือนมกราคม ปี 2005 ถึงเดือนมกราคม ในปีต่อมาภายใต้ยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ นับจากที่ โธมัส ทูเคิล เข้ามาคุมกองทัพ เอดูอาร์ เมนดี้ นายด่านทีมชาติเซเนกัล ของ เชลซี เก็บคลีนชีตในพรีเมียร์ลีก มาแล้วถึง 10 เกมมากยิ่งกว่าผู้เฝ้าประตูผู้อื่นในลีก
“เวสต์แฮม-เลสเตอร์” สองทีมที่เอาชนะมาได้ในนัดหมายเปิดสนาม 6ประเด็นร้อน เวสต์แฮม บุกไล่ยิง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-2 ส่วน เลสเตอร์ เปิดบ้านเชือด วูล์ฟส์ 1-0 ถึงในช่วงเวลานี้ มิคาอิล อันโตนิโอ แผงหน้าร่างบึ้กของ “เดอะ แฮมเมอร์ส” แปลงเป็นผู้เล่นของทีมที่ทำแต้มในพรีเมียร์ลีกสูงที่สุดเสมอกัน
กับ เปาโล ดิ คานิโอ ไปแล้วที่ 47 ประตู ซึ่งเจ้าตัวสอยตาข่าย “เดอะ ฟ็อกซ์” ได้ทั้งคู่เกมหลังสุดที่พบกัน เวสต์แฮม มองหาชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ในเกมลีกเป็นนัดหมายที่ 3 ต่อเนื่องกัน ซึ่งครั้งสุดท้ายที่พวกเขาชนะ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” 4 นัดหมายติดเป็นตอนระหว่างพฤศจิกายน 1994 ถึงเมษายน 1997
6ประเด็นร้อน มีเพียงแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และก็ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แค่นั้นที่้เก็บแต้มยามเล่นเกมเยี่ยมในพรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลก่อนมากยิ่งกว่า เลสเตอร์ (38 คะแนน) เคลิชี่ อิเฮียนาโช่ หัวหอกของ เลสเตอร์ มีส่วนร่วมกับประตูใส่ เวสต์แฮม 4 จาก 4 เกมหลังสุดที่พบกันในพรีเมียร์ลีก (3 ประตู 1 แอสซิสต์)