หนีการตกชั้น

หนีการตกชั้น บางครั้งโชคชะตาก็มักจะพลิกผันชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อนักเตะที่อยู่กับสโมสรตกชั้น จะก้าวขึ้นมาเป็นตำนานของอีกสโมสร

หนีการตกชั้น บางครั้งโชคชะตา ก็มักจะพลิกผัน ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อนักเตะที่อยู่กับสโมสรตกชั้น จะก้าวขึ้นมาเป็นตำนาน ของอีกสโมสรอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้ เหมือนพระเจ้าได้ ขีดเส้นชะตาชีวิต ให้กับพวกเขาเอาไว้ล่วงหน้า

เรื่องราวชีวิตของผู้เล่น บางคนที่เราๆ ท่านๆ ได้เห็นกันในปัจจุบัน บางครั้งมันก็น่าเหลือเชื่อ เพราะนักเตะบางคน ที่มีฝีเท้าจัดจ้าน กลับต้องอยู่กับทีม ที่ดูเหมือนไร้อนาคต และต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น กระนั้นเมื่อพวกเขามีโอกาส ที่จะได้ย้ายสโมสร

เพื่อไปแสวงหาความสำเร็จ จึงไม่ใช่เรื่องผิด ที่นักเตะเหล่านี้ จะคว้ามันเอาไว้ แต่มี 5 ผู้เล่นที่ต้องบอกว่าตัดสินใจ ได้อย่างถูกต้อง ในการอำลาต้นสังกัด ที่ร่วงตกชั้น และกลายเป็นตำนานของสโมสรใหม่ในเวลานี้

รอย คีน (น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ฤดูกาล1992/1993) หนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากมายมหาศาลในศึกพรีเมียร์ลีก ด้วยการคว้าแชมป์ถึง 7 สมัย และยังถือเป็นหนึ่งในกัปตันทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

“คีโน่” เคยต้องเจอกับประสบการณ์ร่วงตกชั้นตอนที่เล่นให้ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ โดยในเวลานั้นเขากำลังเป็นแข้งดาวรุ่งพุ่งแรก และเป็นหนึ่งในนักเตะแห่งอนาคตของวงการลูกหนังโลก แม้ว่า คีน จะเก่งขนาดไหน และพยายามช่วย “เจ้าป่า” เต็มที่แล้ว

หนีการตกชั้น แต่สุดท้ายทีมของกุนซือไบรอัน คลัฟ ก็ต้องโบกมือลาลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ในฤดูกาล 1992/1993 อย่างไรก็ตาม เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มองเห็นศักยภาพของนักเตะ และเลือกที่จะคว้าตัวมาเสริมทัพกับ “ปีศาจแดง” ที่เหลือหลังจากนั้นก็คือประวัติศาสตร์ !!! ข่าวลิเวอร์พูล ล่าสุด

หนีการตกชั้น

ทั้งหมดนี้เหมือนพระเจ้าได้ขีดเส้นชะตาชีวิตให้กับพวกเขาเอาไว้ล่วงหน้า

หนีการตกชั้น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ฮัลล์ ซิตี้ ฤดูกาล2014/2015 และ2016/2017) ในปัจจุบัน แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่เก่งที่สุดในโลก แต่กว่าจะมีวันนี้นักเตะต้องพบกับช่วงเวลาที่น่าผิดหวังมาแล้วหลายครั้ง

รวมทั้งการตกชั้นจากศึกพรีเมียร์ลีก ถึง 2 ครั้งเลยทีเดียว !! หลังจากไม่สามารถช่วย ฮัลล์ ซิตี้ อยู่รอดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีในฤดูกาลแรกของเขากับต้นสังกัด จากนั้น โรเบิร์ตสัน ก็ช่วย “เดอะ ไทเกอร์ส” หวนคืนสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งในปีถัดมา

ก่อนจะพบจุดจบแบบเดิมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามครั้งนี้ ดาวเตะชาวสกอตติช สร้างผลงานได้ประทับใจ ลิเวอร์พูล ซึ่งยอมเจียดเงินแค่ 8ล้านปอนด์ (ราว352ล้านบาท) คว้าตัวนักเตะมาร่วมทัพ โดยหวังให้เป็นยางอะไหล่ของ อัลเบร์โต้ โมเรโน่

แต่กลายเป็นว่าเขาพัฒนาตัวเองจนเป็นแบ็กซ้ายเบอร์ 1 ของทีมในที่สุด โรเบิร์ตสัน มีส่วนสำคัญในการนำลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และพรีเมียร์ลีก ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่านี่คือการลงทุนที่แสนคุ้มค่าของ “หงส์แดง” อย่างแท้จริง

จอร์แดน พิคฟอร์ด (ซันเดอร์แลนด์ ฤดูกาล2016/2017) นายทวารหมายเลข 1 ทีมชาติอังกฤษ ได้ชื่อว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเส้นทางอาชีพนักเตะของเขามีตั้งแต่จุดต่ำสุดในการตกชั้น

ไปจนถึงจุดสูงสุดที่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกยูโร 2020 ย้อนกลับไปในฤดูกาล2016/2017 จอร์แดน พิคฟอร์ดต้องพบกับช่วงเวลาที่น่าผิดหวังกับ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อต้นสังกัดของเขาร่วงจากลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 10ปี

ทัพ “แมวดำ” ต้องพบกับสถานการณ์ที่เลวร้ายในการต้องหวนกลับไปเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในขณะที่พิคฟอร์ด ได้รับโอกาสใหม่เมื่อ เอฟเวอร์ตัน ยื่นมือมาฉุดเขาขึ้นจากหลุมดำในซีซั่นถัดมา การได้ทำหน้าที่เฝ้าเสาให้กับทัพ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”

พิคฟอร์ดสามารถเบียดแย่งตำแหน่งมือ 1 มาจาก วีโต้ มานโนเน่ และผลงานสุดเหนียวหนึบของเขาทำให้ได้รับการเสนอชื่อลุ้นรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีพีเอฟเอ พร้อมทั้งยังถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษ

จนกระทั่งยึดตัวจริง “สิงโตคำราม” ในปัจจุบัน จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (นิวคาสเซิ่ลยูไนเต็ด ฤดูกาล2015/2016) หากนิวคาสเซิ่ลยูไนเต็ด ต้องร่วงตกชั้นในฤดูกาลนี้ นั่นไม่ใช่ครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ของพวกเขา

เพราะก่อนหน้านี้ทัพ “สาลิกาดง” เคยได้พบกับความผิดหวังแบบนี้มาแล้ว “เดอะ แม็กพายส์” สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าตัว จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ด้วยค่าตัว 14.5ล้านปอนด์ (ราว638ล้านบาท) ช่วงซัมเมอร์ปี 2015 และเขาทำผลงานได้ดีไม่มีที่ติ

ดาวเตะเลือดดัตช์ ซัดไป 11 ประตูพร้อมกับครองอันดับดาวซัลโวประจำสโมสรในซีซั่นแรกที่ค้าแข้งในถิ่นเซนต์ เจมส์ พารค์ แต่น่าเศร้าเหลือเกินที่ความเก่งของเขาเพียงคนเดียวไม่สามารถช่วยทีมได้ โดยนิวคาสเซิ่ล จบอันดับ 18 มีแต้มน้อยกว่า

หนีการตกชั้น ซันเดอร์แลนด์ ทีมสุดท้ายในโซนปลอดภัยแค่ 2 แต้มเท่านั้น อย่างไรก็ตามศักยภาพของ ไวจ์นัลดุม มันโดดเด่นจนเข้าตา เจอร์เก้น คล็อปป์ และนั่นทำให้เขารีบคว้าตัวนักเตะมาร่วมทัพ ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญนำความสำเร็จมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ เจาะไม่เข้าเลย

By admins

You missed