ฟีร์มีโน่ไม่พร้อม

ฟีร์มีโน่ไม่พร้อม ฟอร์มของ “เดอะ เร้ดส์” จำต้องพูดว่ากำลังอยู่ในตอนเร่าร้อนสุดๆ เกมรุกก็ดุดัน เกมรับก็แน่นแฟ้น แต่ว่าอย่างเดียวที่ยังขาดไปนิดหนึ่ง

ฟีร์มีโน่ไม่พร้อม ฟอร์มของ “เดอะ เร้ดส์” จำต้องพูดว่ากำลังอยู่ในตอนเร่าร้อนสุดๆเกมรุกก็ดุดัน เกมรับก็แน่นแฟ้น แต่ว่าอย่างเดียวที่ยังขาดไปนิดหนึ่งมันก็คือความเฉียบคม เพราะเหตุว่าพวกเขาดูเหมือนจะสร้างจังหวะได้มากไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ว่าจบสกอร์ไม่ถูกต้องแม่นยำ ในขณะที่พาเลซ ในยุคผู้จัดการทีมปาทริค วิเอร่า กำลังฟอร์มดีวันดีขึ้น ปัจจุบันไล่ต้อน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สบายเกือก 3-0 สำหรับเกมเจอ “ลิเวอร์พูล” นับว่าเป็นบททดลองที่สำคัญมากๆ

สำหรับนายใหญ่ชาวฝรั่งเศส ว่ากึ๋นแจ๋วเหมาะสมกับคุมทีมในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีหรือไม่ !! ขาด ฟีร์มีโน่ แต่ว่าแนวรุกยังบริบูรณ์ สิ่งที่โชคร้ายในแมตช์นี้ที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยังไม่สามารถที่จะลงในสนามช่วยกองทัพลิเวอร์พูลได้

เนื่องจากการบาดเจ็บกล้ามเนื้อข้างหลังหัวเข่ายังไม่หายสนิท นั่นทำให้ คล็อปป์ เลือกที่จะพักเขาเอาไว้ก่อนเพื่อให้มีความปลอดภัย แต่เรื่องแนวรุกของ “เดอะ เร้ดส์” คงไม่ใช่ปัญหาด้วยเหตุว่าพวกเขายังมีสามพระรอยดำที่อันตรายเป็นอย่างมากมัน

ก็คือ ดีโอโก้ โชต้า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แล้วก็ ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นคุณลักษณะเด่นที่แนวรับของพาเลซ ต้องระวังให้ดีๆ ขณะเดียวกับ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ยังมีแผงหน้าที่บางทีอาจถูกลืมไปแล้วซึ่งก็คือ ดิว็อค โอริกี้

ซึ่งทำผลงานได้อย่างดียิ่งด้วยกระบวนการทำแอสซิสต์ให้ “บังโม” ในเกมช่วยสังกัดเดิมชนะ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน เกมเปิดฉากสนามศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธก่อนหน้าที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ถ้าหากเกิดกรณีรีบด่วนที่เกมรุกของลิเวอร์พูล ขัดข้อง

การใช้ โอริกี้ ลงไปในสนาม ได้โอกาสที่จะทำให้ทีมสามารถพลิกเหตุการณ์ได้ ด้วยเหตุว่าเรื่องความรู้ความเข้าใจและก็ประสิทธิภาพของ จอมบุกชาวเบลเยียม ยังนับว่าดียอด ช่วงเวลาที่ความเชื่อมั่นก็คงจะมากขึ้นจากผลงานตอนกึ่งกลางอาทิตย์

ฟาน ไดค์-มาติป คู่กองหลังตัวกลาง ที่ขาดไม่ได้ ช่วงกลางสัปดาห์ คล็อปป์ ตกลงใจพัก เฟอร์จิล ฟานไดค์ในเกมกับ มิลาน โดยมอบโอกาส โจ โกเมซ ลงเล่นร่วมกับ โฌแอล มาติป ซึ่งทั้งคู่คนก็ทำผลงานได้อย่างดียิ่ง

แม้กระนั้นมีข้อแย้งเพียงแค่ตอน 5 นาทีในที่สุดของครึ่งแรก ที่สับสนตำแหน่งไปหน่อยทำให้ทีมเสียสองประตู แน่นอนว่าในเกมลีกจัดการ “ดิ อีเกิ้ลส์” นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช จำเป็นต้องจับฟานไดค์ กลับมายืนตัวจริงอีกที

แต่ว่าในรายของมาติป คงจะจะต้องคิดมากซะหน่อย ด้วยเหตุว่าถ้าเลือกส่งแนวรับชาวแคเมอรูนลงในสนาม บางครั้งอาจจะเสี่ยงเหลือเกินด้วยเหตุว่าทำให้เขาลงไปในสนาม 3 เกมในรอบ 6 วัน ซึ่งโน่นน่าจะเป็นเหตุผลที่ คล็อปป์ บางครั้งก็อาจจะพักเขา

และก็เปิดโอกาส อิบราฮิม่า โกนาเต้ ลงเปิดตัวกับทีม จะว่าไปแล้วผลงานของฟานไดค์-มาติปจัดว่าหนักแน่นสุดๆในช่วงฤดูกาลนี้ โดยพวกเขาลงปฏิบัติหน้าที่คุมแนวรับด้วยกันรวมทั้งเสียเพียงแค่ประตูเดียวเพียงแค่นั้น

ที่สำคัญในช่วงเวลาที่พวกเขาลงในสนามด้วยกันทีมไม่แพ้คนไหนกันในเกมลีก 34 แมตช์หลังสุด ความแพ้พ่ายที่ฟานไดค์ กับ มาติปลงเล่นด้วยกันเกิดขึ้นในแมตช์เยือน สวอนซี ซิตี้ เมื่อม.ค. 2018 แต่ว่าจากนั้นพวกเขาก็ไม่มีจังหวะได้กลับมายืนเป็นหอคอยคู่ในเกมรับของ “เดอะ เร้ดส์” อีกเลย

ฟีร์มีโน่ไม่พร้อม ด้วยเหตุนี้ด้วยสถิติเกมรับที่สุดยอดของทั้งคู่คน มีความน่าจะเป็นที่ คล็อปป์ บางทีก็อาจจะเลือกใช้งานพวกเขาลงไปในสนามถัดไป แม้ว่าการทำอย่างนี้บางทีอาจมีผลต่อสภาพร่างกายของมาติป ที่ค่อนจะเจ็บง่ายก็ได้ ข่าวลิเวอร์พูล ล่าสุด

ฟีร์มีโน่ไม่พร้อม

ความเฉียบคมเพราะเหตุว่าพวกเขาดูเหมือนจะสร้างจังหวะได้มากไม่น้อยเลยทีเดียว

ฟีร์มีโน่ไม่พร้อม เฮนเดอร์สัน เตรียมสวมปลอกแขนกัปตันทีมเกมที่ 200 หนึ่งในเรื่องน่าประทับใจสำหรับเกมพบคริสตัลพาเลซ ก็คือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมเป็นแมตช์ที่ 200 ทำให้เขาก้าวขึ้นมาติดอยู่ในทำเนียบผู้นำทัพของยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ไปแล้ว

“เฮนโด้” ประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะกัปตันทีมลิเวอร์พูล เมื่อเขามีโอกาสได้ชูโทรฟี่แชมป์พรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่ฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้ก็โดดเด่นมากๆ ล่าสุดก็เพิ่งซัดประตูสุดสวยช่วยให้ทีมเฉือน “รอสโซเนรี่” ด้วย

สำหรับแมตช์พบพาเลซ จะทำให้ เฮนเดอร์สัน ได้เดินหน้านำเพื่อนร่วมทีมครบ 200 แมตช์ แน่นอนว่ามันยังห่างไกลกับอันดับหนึ่งนั่นก็คือสตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่นี่ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาสำคัญกับทีมมากกว่าแค่ไหน

ในกรณีที่ได้ลงสนามเกมวันเสาร์นี้จะทำให้ เฮนเดอร์สัน ลงเล่นในฐานะกัปตันทีม “เดอะ เร้ดส์” เป็นรอง ซามี่ ฮูเปีย (204 เกม) ขณะ อเล็กซ์ ไรสเบค (267 เกม), โดนัลด์ แม็คกินเลย์ (293 เกม), เอมลีน ฮิวจ์ส (335 เกม), รอน ยีตส์ (416 เกม) และ เจอร์ราร์ด (472 เกม)

มาเน่ ลุ้นทำสถิติให้กับตัวเอง สำหรับแมตช์นี้ คล็อปป์ น่าจะให้โอกาส ซาดิโอ มาเน่ ได้ลงสนามเป็นตัวจริง หลังจากที่เขาได้พักร่างกายอย่างเต็มที่ในแมตช์ล่าสุดที่พบกับ มิลาน เมื่อถูกส่งเป็นตัวสำรองในช่วงครึ่งหลัง

มาเน่ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงต้นฤดูกาลนี้ โดยเขามีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของทีมในเกมพรีเมียร์ลีก ขณะเดียวกันนักเตะเตรียมจะสร้างสถิติในเกมที่จะช่วย “หงส์แดง” ปะทะกับคริสตัลพาเลซ

แนวรุกทีมชาติเซเนกัล มีลุ้นสร้างสถิติเป็นนักเตะ พรีเมียร์ลีก คนแรกที่ยิงใส่คู่แข่งทีมเดียวกัน 9 นัดติด หลังซัดประตู “ปราสาทเรือนแก้ว” มาแล้ว 8 นัดติด แน่นอนว่านี่คือสถิติที่คงทำให้พาเลซ หวาดหวั่นเช่นกันในยามที่เจอลิเวอร์พูล

วิเอร่า สร้างทีมแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ ปาทริค วิเอร่า เข้ามารับงานแทน รอย ฮ็อดจ์สัน ที่ประกาศวางมือ ผลงานของเขาลุ่มๆ ดอนๆ เริ่มด้วยการแพ้ เชลซี 0-3 ตามด้วยผลงานเสมอทีมน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ เบรนท์ฟอร์ด แบบไร้สกอร์

อย่างไรก็ตามสองเกมหลังสุด วิเอร่า ค่อยๆ ปรับจูนพาเลซ ให้ดีข้นเมื่อนำทีมเสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มพีค สกอร์ 2-2 ก่อนจะจัดหนักใส่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สบายเกือก 0-3 พร้อมกับฟอร์มที่โดดเด่นเหนือ “ไก่เดือยทอง”

สำหรับเกมเยือนถิ่นแอนฟิลด์ ถือเป็นอีกบททดสอบของ วิเอร่า ได้เป็นอย่างดี โดยสิ่งที่น่าจะทำให้พาเลซ ได้เปรียบก็คือพวกเขาไม่มีเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปในช่วงกลางสัปดาห์ทำให้นักเตะได้พักฟื้นร่างกายเต็มที่

ขณะเดียวกันผู้เล่นที่ลิเวอร์พูล ต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ ไม่ใช่แค่ วิลฟรีด ซาฮา กับ คอนอร์ กัลลาเกอร์ เท่านั้น เพราะยังมีผู้เล่นอย่าง ออดซอน เอดูอาร์ หัวหอกตัวใหม่ ที่ได้ลงสนามเกมเปิดตัวกับต้นสังกัดแมตช์ถลุง สเปอร์ส

ฟอร์มของ เอดูอาร์ อันตรายอย่างมากตั้งแต่สมัยที่เล่นให้ กลาสโกว์ เซลติก เมื่อเขาซัดไปถึง 86 ประตูจาก 179 เกมให้กับ “ม้าลายเขียวขาว” และในเกมกับ สเปอร์ส นักเตะถูกส่งลงมาเล่นเป็นตัวสำรองพร้อมกับซัด 2 ประตูซะด้วย

ฟีร์มีโน่ไม่พร้อม งานนี้มีความเป็นไปได้ที่ วิเอร่า อาจจะให้ เอดูอาร์ ลงเป็นตัวจริงแทนที่ คริสติย็อง เบนเตเก้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น คล็อปป์ แอนด์ โค. คงต้องวางเกมรับให้แน่น เพราะไม่งั้นหากประมาทอาจเสียท่าได้เลย ซัวเรซเหมาสอง

By admins

You missed