นัดดุเดือด “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ตัดแข้งลิเวอร์พูล บุกเฉือนฟอเรสต์

นัดดุเดือด เกมส์นี้ถือว่าลิเวอร์พูลทำได้ดีมาก สามารถบุกไปชนะ ฟอเรสต์ได้ เข้ารอบตัดเชือกนัดต่อไปพบกับ แมนฯซิตี้

นัดดุเดือด ลิเวอร์พูลเดินหน้าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกเกมหลังบุกชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีการโรเตชั่นนักเตะหลายตำแหน่ง

แม้ผลงานอาจจะไม่ค่อยดุดันมากนัก แต่ก็สามารถประคองจนทัพ “หงส์แดง” โบยบินผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือก ซึ่งจะปะทะกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเต็งหนึ่ง 11 ตัวจริง อลีสซง เบ็คเกอร์ : 6 ไม่ต้องทำงานหนักมากนักครึ่งแรก

ส่วนครึ่งหลังเตะพลาดแต่เดชะบุญที่ไม่ส่งผลเสียหายกับทีม ช่วงท้ายเกมมีจังหวะหวาดเสียวออกมาตัดบอลจนทำให้ ไรอัน เยตส์ ล้มในเขตโทษ แต่วีเออาร์ยืนยันไม่ฟาวล์ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 8 ยังคงเป็นพี่ใหญ่ในแผงแบ็กโฟร์ เล่นด้วยความนิ่ง

ปิดช่องว่างไม่ให้แนวรุก “เจ้าป่า” ได้มีโอกาสเจาะเข้าไป ในกรอบเขตโทษ เก็บกินลูกกลางอากาศได้หมด อิบราฮิม่า โกนาเต้ : 7 มีอาการตื่นตระหนกในช่วงต้นเกม แต่หลังจาก ปรับสภาพได้ สามารถคุมเกมรับได้ดีเยี่ยม แม้ตัวใหญ่ แต่มีความรวดเร็ว

รับมือ คีแนน เดวิส อยู่หมัด และยังมีจังหวะ เสียบสกัด อเล็กซ์ ไมเท่น ได้อย่างแม่นยำ โจ โกเมซ : 7 ทำผลงานได้ดี ในการเล่นเกมรับ มีโอกาสขึ้นไปเติมเกมบุก ในพื้นที่สุดท้าย ของเจ้าบ้าน แต่จังหวะเปิดบอลจากริมเส้นไม่ค่อยแม่นยำเท่าไหร่

คอสตาส ซิมิกาส : 8 เติมเกมบุกได้สนุก เกมรับถือว่าใช้ได้ แย่งบอล จากคู่แข่งได้ดี นอกจากนี้ยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ โชต้า ยิงประตูชัย ฟาบินโญ่ : 7 คุมพื้นที่แดนกลางได้ อยู่หมัด แสดงให้เห็นถึง ความยอดเยี่ยม ในการเก็บบอล, แย่งบอล

และตัดเกมคู่แข่ง ก่อนที่จะทะลุไป ถึงแผงแบ็กโฟร์ เล่นด้วยความนิ่ง มีจังหวะสร้างสรรค์เกมรุก ให้ทีมอย่างต่อเนื่อง นาบี เกอิต้า : 6 ไล่กดดันได้ดี ผ่านบอลใช้ได้ โดดเด่นในเกมรุก แต่เกมรับไม่ค่อยดีนัก บางครั้งครองบอล นานเกินไป จนทำให้โดนแย่งบอล

อเล็กซ์ อ็อดซ์เลด-แชมเบอร์เลน : 6 ช่วงต้นเกมใช้ความเร็ว สร้างปัญหา ให้กับเกมรับเจ้าบ้าน พยายามสร้างโอกาสให้ ฟีร์มีโน่ และครึ่งแรกเล่นได้ดี แต่ครึ่งหลังฟอร์มหลุดไปดื้อๆ ไม่สามารถทำผลงาน เป็นชิ้นเป็นอัน

นัดดุเดือด ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ : 5 เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าผิดหวังของ เอลเลียตต์ ไม่มีความโดดเด่นในการเล่นเกมรุกฝั่งขวา จับบอลไม่นิ่ง ทำให้ทีมเสียจังหวะเวลาเล่นเกมบุก ไม่ได้สร้างความกดดันให้กับกองหลังฟอเรสต์เลย ข่าวลิเวอร์พูล ล่าสุด

ชนะไปได้ในนัดนี้ ลิเวอร์พูลต้องมาลุ้นรอบตัดเชือกกับแมนฯซิตี้

นัดดุเดือด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ : 7 ความคล่องตัวทำให้กองหลัง “เจ้าป่า” รับมือลำบาก มีโอกาสที่จะยิงประตูให้ทีมขึ้นนำในช่วงครึ่งแรกแต่น่าเสียดายที่โดน อีธาน ฮอร์วาธ ความสามารถในการครองบอล และการเชื่อมช่วยให้ “หงส์แดง” อันตรายมากยิ่งขึ้นในครึ่งหลัง

ดีโอโก้ โชต้า : 8 วิ่งหาพื้นที่ว่างตลอด ปั่นป่วนกองหลังคู่แข่งทุกครั้งที่ได้ครองบอล วิ่งไล่เพรสซิ่งได้ดีมากๆ สัญชาติญาตในการยิงประตูเฉียบคม มีโอกาสกดประตูที่สองช่วงทดเจ็บแต่ดันยิงไม่เน้น ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (แทน นาบี เกอิต้า น.64 ) : 6 ลงมาช่วยทีมขับเคลื่อนเกมรุก หลังจากฟอร์มติดๆ ขัดๆ ในครึ่งหลัง สามารถยกระดับทีมได้ดี และทำให้แดนกลางมีความเหนียวแน่น หลุยส์ ดิอาซ (แทน อเล็กซ์ อ็อดซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.64 ) : 6

ลงมาขู่ทางฝั่งซ้ายได้ดีเยี่ยม ทำให้แบ็กขวา ฟอเรสต์ ไม่กล้าเติมเกมรุกมากนัก มีจังหวะใช้ความเร็วปั่นป่วนหลายครั้ง ทาคุมิ มินามิโนะ (แทน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ น.64) : 6 ทำงานหนัก พยายามเชื่อมเกมทางฝั่งขวา มีจังหวะแทงบอลให้เขตโทษให้ ติอาโก้

นัดดุเดือด แต่น่าเสียดายโดนกองหลัง ฟอเรสต์ ตัดได้แบบเฉียดฉิว ติอาโก้ อัลกันทาร่า (แทน ฟาบินโญ่ น.64) : 7 ช่วยทำให้ลิเวอร์พูล ครองบอลได้ดีขึ้น คอยคุมจังหวะ และทำให้เกมแดนกลางมีความแน่นอนมากขึ้น กําลังถูกย้ายมา