ช่วยไม่ได้ นิวคาสเซิ่ลจืดโดนทีมลีกวันบุกตบคาถิ่นร่วงเอฟเอคัพสุดช้ำ

ช่วยไม่ได้ นิวคาสเซิ่ล สุดจืด อุตส่าห์ส่งแข้งป้ายแดงอย่าง คีแรน ทริปเปียร์ ประเดิมบู๊ แต่ก็ยังดึงสภาพกลับมาไม่ได้ โดนทีมลีกวันอย่าง เคมบริดจ์ บุกมาตบคว่ำ 1-0 

ช่วยไม่ได้ นิวคาสเซิ่ล สุดจืด อุตส่าห์ส่งแข้งป้ายแดงอย่าง คีแรน ทริปเปียร์ ประเดิมบู๊ แต่ก็ยังดึงสภาพกลับมาไม่ได้ โดนทีมลีกวันอย่าง เคมบริดจ์ บุกมาตบคว่ำ 1-0 เตะกระเด็นตกรอบ เอฟเอคัพ แค่รอบ 3 แถมอาการยังไม่ฟื้นไร้ชัยนัดที่ 5 ติดอีกต่างหาก ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 3

สนาม : เซนต์เจมส์ พาร์ค ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 3 เป็นเกมระหว่าง “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ทีมดังพรีเมียร์ลีก เปิดสนามเซนต์เจมส์ พาร์ค ต้อนรับเคมบริดจ์ยูไนเต็ด ทีมจากลีกวัน อังกฤษ โดยเกมนี้ เอ็ดดี อาว จัดหนักส่งตัวหลักครบครัน

รวมไปถึงแบ็กขวา ป้ายแดง แข้งแรกในตลาดหน้าหนาว อย่างทริปเปียร์ ประเดิมสนามหลังย้ายมาจาก แอต.มาดริด อย่างเป็นทางการด้วย เริ่มเกมมา 9 นาที อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง ได้แผลงฤทธิ์ใช้ความคล่องตัวกระชากบอลตรงกรอบเขตโทษ

ก่อนหาจังหวะได้สับไกยิงด้วยเท้าซ้ายแต่บอลหลุดเสาออกหลังไป นาทีที่ 18 เจ้าถิ่นทอ้งโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปเฉย เมื่อ ยาค็อป เมอร์ฟี่ พาบอลเลี้ยงเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนเปิดบอลข้ามไปทางเสาสองให้ อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง พุ่งโขกคนเดียวโล่งๆ

แต่ แซงต์-มักซิแม็ง โหม่งหลุดกรอบ ออกหัลงไปเองอย่างน่าเสียดาย 2 นาทีต่อมา โอกาสทองของทีมสาลิกา บินหนีไปอีก เมื่อ โชลินตอน กระชากบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนไหลด้านกว้างให้ อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง ที่วิ่งเติมขึ้นมา

แต่กลายเป็นว่า อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง เข้าไม่ถึงบอลอีกครั้ง ทำให้บอลจากที่จะได้ยิงโล่งๆ กลายเป็นไหลผ่านหน้าประตูไปเองอีก ข่าวลิเวอร์พูล ล่าสุด

แข้งแรกในตลาดหน้าหนาว อย่างทริปเปียร์ ประเดิมสนามหลังย้ายมาจาก แอต.มาดริด อย่างเป็นทางการด้วย

ช่วยไม่ได้ ท้ายครึ่งแรกนาทีที่41 เจ้าถิ่นพยายามโหมบุกใส่ แต่ลูกยิงของ ยาค็อป เมอร์ฟี่ และ ฌอน ลองสตาฟฟ์ ก็ยังไม่ผ่านเซฟของ ดิมิทาร์ มิตอฟ ทำให้หมดครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ลจึงยังเปิดบ้านเสมอ เคมบริดจ์ยูไนเต็ดอยู่ 0-0

เริ่มครึ่งหลังมานาทีที่ 50 แฟนๆเจ้าถิ่นได้เฮ เมื่อวางบอลยาวมาจากแดนตัวเอง ยาค็อป เมอร์ฟี่ ได้บอลก่อนยิงสวนตัว ดิมิทาร์ มิตอฟ เข้าประตูไป แต่ก็กลายเป็นดีใจเก้อ เนื่องจากผู้ช่วยผู้ตัดสินตีธงว่า ยาค็อป เมอร์ฟี่ ล้ำหน้าไปเสียก่อน

แต่แล้วนาทีที่ 57 กลายเป็นเคมบริดจ์ยูไนเต็ด ได้เฮเฉยเมื่อ อดัม เมย์ หลุดไปยิงติดเซฟ มาร์ติน ดูบราฟก้า บอลมาเข้าทาง ฮาร์วีย์ นิปป์ส ยิงซ้ำก็ยังไปติด ดูบราฟก้า อีก ก่อนบอลมาจบที่ โจ ไอรอนไซด์ ตามเก็บซ้ำจ่อๆไม่เหลือ

และหลังผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์อยู่นาน ก็เป่าเป็นประตูให้ทีมจากลีกวันได้ประตู ทำให้ เคมบริดจ์ บุกนำ 1-0 นาทีที่ 85 ทีมเยือนเกือบได้ประตูเพิ่ม เมื่อ แฮร์ริสัน ดังค์ ไหลบอลให้ แจ๊ค ลันเคสเตอร์ เติมขึ้นมายิงอย่างสวย แต่โชคร้ายที่ผู้ตัดสินตีธงล้ำหน้าไปเสียก่อน

ช่วงเวลาที่เหลือ นิวคาสเซิ่ลพยายามโหมเกมบุกใส่แทบจะพับสนาม แต่ก็เจาะไม่เข้า ทำให้สุดท้าย ทีมสาลิกา เปิดบ้านพ่ายให้กับ เคมบริดจ์ยูไนเต็ดไป 0-1 ตกรอบเอฟเอคัพ แค่รอบ 3 ไปอย่างเจ็บช้ำ แต่เป็นการควานหาชัยชนะไม่เจอเป็นนัดที่ 5 ติดอีกด้วย

11นักเตะตัวจริงของทั้งสองทีมนิวคาสเซิ่ล : มาร์ติน ดูบราฟก้า,คีแรน ทริปเปียร์,เอมิล คราฟท์,ฟาเบียน แชร์,แมตต์ ริตชี่ (ฮาเวียร์ มานกีโญ่ น.78),จอนโจ เชลวี่,ฌอน ลองสตาฟฟ์ (มิเกล อัลมิรอน น.60),ยาค็อป เมอร์ฟี่ (โจ วิลล็อค น.60),ชลินตอน,ไรอัน เฟร์เซอร์,อัลลัน แซงต์-มักซิแม็ง

ช่วยไม่ได้ เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด : ดิมิทาร์ มิตอฟ,จอร์จ วิลเลี่ยม,แจ็ค ไอร์เดล,พอล ดิ๊กบี้,เจมส์ โบรฟี่,โจ ไอรอนไซด์,แฮร์ริสัน ดังค์,ยูบริล โอเคดิน่า,อดัม เมย์,ฮาร์วีย์ นิปป์ส (แจ๊ค ลันเคสเตอร์ น.76),เบน วอร์แมน (เวส ฮูลาแฮน น.61) รานิเอรี่ไม่ถอย