จำเป็นบ๊วย

จำเป็นบ๊วย สรุปว่าศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำฤดูกาล 2021-22 ก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมันดีเลย์จากธรรมดามาวันหนึ่ง

จำเป็นบ๊วย สรุปว่าศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำฤดูกาล 2021-22 ก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมันดีเลย์จากธรรมดามาวันหนึ่ง เนื่องด้วยนัดหมายในที่สุดของกลุ่ม เอฟ ระหว่าง อตาลันต้า กับบียาร์เรอัล จำต้องเลื่อนการแข่งขันชิงชัย

จากเมื่อวันพุธที่ 8ธ.ค. มาเป็นวันพฤหัสบดีที่ 9ธ.ค. จากการที่ตอนต้นหิมะมันตกหนักจนถึงทำให้ไม่อาจจะเตะกันได้ ดังนี้ เพื่อเป็นการล่ำลารอบแบ่งกลุ่มของศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ วันนี้พวกเราเลยมีเกร็ดเกี่ยวกับผลงาน

ตลอดทั้ง 192 เกมในรอบแบ่งกลุ่มมานำเสนอสักนิด ทดลองไปดูกันเลยดีกว่าว่ามันมีใจความสำคัญไหนที่น่าดึงดูดกันบ้าง อัลแลร์ คมเหนือความมุ่งหวัง เซบาสเตียน อัลแลร์ เคยมีตอนที่ทรามตอนเล่นให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

แม้กระนั้นภายหลังจากย้ายมาอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม แล้วนั้น เขาก็เปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย จากการซึ่งสามารถทำแต้มให้ทีมได้โดยตลอด โดยในช่วงเวลานี้เขานำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของรายการด้วยจากผู้กระทำดไป 10ประตู

ยิ่งไปกว่านี้ แม้วัดที่ค่าเฉลี่ยด้านปริมาณประตูต่อการยิงตรงกรอบ 1 ครั้งแล้วนั้น อัลแลร์ ก็ยังเหนือกว่านักฟุตบอลระดับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ด้วยซ้ำ

จากการที่ค่าถัวเฉลี่ยของเขาเป็น 0.75 ประตูต่อการยิงตรงกรอบ 1ครั้ง โดยของ เลวานดอฟสกี้ อยู่ที่ 0.73 ลูกต่อการยิงตรงกรอบ 1ครั้ง ช่วงเวลาที่จำนวนด้านนี้ของ ซาลาห์, เมสซี่ แล้วก็ โรนัลโด้ อยู่ที่ 0.55, 0.50 แล้วก็ 0.46 เป็นลำดับ

บรูโน่ เจ้าพ่อจอมปั้น แม้ว่าตอนนี้ฟอร์มโดยรวมอาจจะไม่ถึงขั้นโหดเหมือนแต่ก่อน แต่จนถึงตอนนี้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็เป็นคนที่ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดในแชมเปี้ยนส์ลีก จากการทำไปได้ 6หน เหนือกว่า แอนโธนี่ ดาวเตะ อาแจ็กซ์ อยู่ 1ครั้ง

จำเป็นบ๊วย ที่สำคัญกว่านั้นคือ บรูโน่ นำในชาร์ตนี้ได้ทั้งที่ลงเล่นไป 363 นาทีเท่านั้น ขณะที่ แอนโธนี่ ลงเล่นไปทั้งหมด 397เกม ทั้งนี้ อันดับ 3 ในชาร์ตนี้มีอยู่ 2 คน นั่นคือ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กับลีรอย ซาเน่ ที่ทำไปคนละ 4 แอสซิสต์ แต่ทั้งคู่ก็ลงเล่นไปมากถึง 493นาที กับ500 นาที ตามลำดับด้วยกัน ข่าวลิเวอร์พูล ล่าสุด

จำเป็นบ๊วย

ระหว่าง อตาลันต้า กับ บียาร์เรอัล จำต้องเลื่อนการแข่งขันชิงชัย

จำเป็นบ๊วย ลิเวอร์พูล กับบาเยิร์น ประสิทธิภาพสูง “หงส์แดง” กับ “เสือใต้” คือทีมที่ได้รับการยกย่องว่ามีเกมรุกที่น่ากลัวมากเป็นลำดับต้นๆ ของโลกลูกหนังในปัจจุบัน ผลงานการทำไป 17 ประตูกับ 22 ลูก ในรอบแบ่งกลุ่มคือสิ่งที่ช่วยยืนยันถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี

และหากเจาะลึกลงไปแล้วนั้นก็จะพบว่าสาเหตุที่ทำให้พวกเขาทำประตูได้เยอะเป็นเพราะทั้งคู่มีประสิทธิภาพในการยิงอย่างมาก ตลอดช่วง 6 นัดที่ผ่านมานั้น ลิเวอร์พูลมีจังหวะลุ้นประตู 17.8 ครั้งต่อเกม สูงเป็นอันดับ 3 ร่วมของรายการ

ขณะที่ของบาเยิร์น อยู่ที่นัดละ 17.5ครั้ง มากเป็นอันดับ 5 ของรายการ แต่ทั้งคู่ถือเป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยการยิงตรงกรอบสูงที่สุดของศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยจำนวน 7.5 ครั้งต่อนัด เลยทีเดียว โดยมี เรอัล มาดริด ตามมาเป็นที่ 3 ด้วยค่าเฉลี่ย 7 หนต่อ 1 เกม

เรอัล มาดริด กับการผ่านบอลอันยอดเยี่ยม 90.5เปอร์เซ็นต์ คือตัวเลขด้านความแม่นยำในการผ่านบอลของ เรอัล มาดริด ตลอดช่วง 6 นัดที่ผ่านมา ส่งผลให้พวกเขาเป็นทีมที่มีผลงานด้านนี้ดีที่สุด เฉือนชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ไปเพียง 0.4เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ที่ 3 ด้วยตัวเลข 89.2เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ ยังถือเป็นทีมที่มีการผ่านบอลจังหวะสำคัญสูงเป็นอันดับ 1 ของรอบแบ่งกลุ่มด้วย หลังจากทไปได้ 96ครั้ง

โดยมี อินตอร์ มิลาน ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่จำนวน 87หน ส่วน แมนฯ ซิตี้ อยู่ที่ 3 เหมือนเดิมที่ 84ครั้ง เกมรุกที่ฝืดเคืองของ บาร์เซโลน่า “อาซูลกราน่า” ต้องตกรอบแบ่งกลุ่มของแชมเปี้ยนส์ลีก แบบช็อกโลก จากการเป็นเพียงอันดับ 3 ของกลุ่ม อี

ซึ่งส่วนสำคัญมันเป็นเพราะพวกเขามีเกมรุกที่ย่ำแย่มากๆ จากการที่ยิงได้เพียง 2 ลูกตลอดการลงเล่น 6 นัด สิ่งที่เป็นต้นเหตุให้พวกเขายิงได้น้อยก็เพราะ บาร์เซโลน่า แทบไม่มีโอกาสง้างเท้ายิงเลย พวกเขามีค่าเฉลี่ยจังหวะลุ้นประตูแค่ 10 ครั้งต่อนัด

จำเป็นบ๊วย น้อยที่สุดเป็นอันดับ 9 ของรายการ แถมนอกจากจะมีโอกาสง้างเท้าน้อยแล้วนั้น พวกเขาก็ยังยิงได้ไม่แม่นอีกต่างหาก เพราะ บาร์เซโลน่า มีเปอร์เซ็นต์การยิงตรงกรอบแค่ 18.3เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในบรรดาทีมจากรอบแบ่งกลุ่มด้วยกัน จับสลากสองรอบ

By admins

You missed