แย่จริงหรือ สุดท้ายแล้วการเดินทางระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาตำนานหัวหอกชาวนอร์เวย์ ในภารกิจการชุบชีวิต “ปีศาจแดง”
แย่จริงหรือ สุดท้ายแล้วการเดินทางระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาตำนานหัวหอกชาวนอร์เวย์ ในภารกิจการชุบชีวิต “ปีศาจแดง” ก็จบลงแบบไม่แฮปปี้เอ็นดิ้งเมื่อปัจจุบัน โซลชาโดนให้ออกจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อย
ตอนหลังเขาพาทีมแพ้ในลีกถึง 5 เกมจาก 7 นัดหมายหลังสุด แน่นอน สำหรับ “เร้ด อาร์มี่” หลายคนแล้วนั้น การปลดโซลชา ในครั้งนี้มันทำให้พวกเขาจำเป็นต้องปวดมากยิ่งกว่า 3 คนก่อนหน้าโซลชา เนื่องจากว่าแรกเริ่มพวกเขาเคยมั่นใจ
โซลชานี่แหละเป็นคนที่จะกอบกู้ทีมได้ จากการที่เขาเคยอยู่กับทีมในสมัยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานจนน่าจะรู้ทางสำหรับการพาทีมกลับไปสู่ความใหญ่โตได้ ดังนี้ ในวันนี้พวกเราจะมาทดลองดูเรื่องราวเกี่ยวกับการทำทีมของโซลชา
ตั้งแต่เมื่อที่ เขาเข้ามาคุมแมนฯยูไนเต็ด เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 2018 สักหน่อย เพื่อที่แต่ละท่านบางครั้งก็อาจจะตกลงใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นว่าผลงานในยุคของเขามันถูกตีค่าให้มองชั่วร้ายเกินความจริง หรือมันย่ำแย่จนถึงการไล่เขา
นับว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมแล้วกันแน่ ผลงานโดยรวม แน่นอน ตลอดช่วงที่ผ่านมานั้นมักจะมีการนำเสนอว่าโซลชา ถือเป็นกุนซือ แมนฯยูไนเต็ดที่มีเปอร์เซ็นต์พาทีมชนะสูงพอตัว เพราะเขามีเปอร์เซ็นต์พาทีมชนะในการลงเล่นทุกรายการ 54.2เปอร์เซ็นต์
ซึ่งหากนับเฉพาะบรรดา 4 กุนซือถาวรของแมนฯยูไนเต็ด นับตั้งแต่หมดยุคของ เฟอร์กูสัน แล้วนั้น เขาก็เป็นรอง โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เก็บชัยชนะได้ 58.3 เปอร์เซ็นต์แค่คนเดียว แถมทีมของโซลชา ยังทำประตูได้เฉลี่ยนัดละ 1.83ลูก มากกว่า 3 คน
ที่อยู่ในตำแหน่งมาก่อนหน้าเขาด้วย อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือแมนฯยูไนเต็ด ในยุคของโซลชา มีเกมรับที่เปื่อยยุ่ย พวกเขาเสียประตูไปเฉลี่ยแล้วนัดละ 1.09 ประตูเลยทีเดียว ซึ่งหากเทียบกับทีมในยุคของ เดวิด มอยส์,
แย่จริงหรือ หลุยส์ ฟาน กัล และ มูรินโญ่ แล้วนั้น ทีมของโซลชา มีค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อ 1 เกมที่ย่ำแย่มากที่สุด ข่าวลิเวอร์พูล ล่าสุด
“ปีศาจแดง” ก็จบลงแบบไม่แฮปปี้เอ็นดิ้งเมื่อปัจจุบัน โซลชาโดนให้ออกจากตำแหน่ง
แย่จริงหรือ การดวลกับบิ๊ก 6 ตลอดช่วงเวลาเกือบ 3 ปีเต็มกับการคุมแมนฯยูไนเต็ด โซลชามีโอกาสได้นำทีมดวลกับคู่แข่งในกลุ่มบิ๊ก 6 (ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, เชลซี, อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส) ไปรวมแล้ว 36ครั้ง และเขามีเปอร์เซ็นต์ชนะทีมในกลุ่มนั้น 39เปอร์เซ็นต์
ซึ่งหากเทียบกับ 3 คนที่เคยนั่งเก้าอี้กุนซือ แมนฯยูไนเต็ดแบบถาวรก่อนหน้าเขาแล้วล่ะก็ ตรงจุดนี้เขาดูดีกว่า มูรินโญ่ ที่ทำได้ 34 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ แต่ก็ยังเป็นรอง ฟาน กัล อยู่ จากการที่ ฟาน กัล เคยทำให้แมนฯยูไนเต็ด ชนะเวลาเจอกับทีมในกลุ่มบิ๊ก 6 ได้ถึง 43เปอร์เซ็นต์
ถึงกระนั้น หากนับเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก และมีการเทียบตารางคะแนนแบบมินิลีกระหว่าง 6 ทีมด้วยกันแล้วล่ะก็ ทีมของโซลชา เก็บคะแนนได้เพียงแค่ 34คะแนน เท่านั้น เป็นรอง ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี ที่ทำได้ 57คะแนน, 52คะแนน
และ 36คะแนน ตามลำดับ ซึ่งหากภารกิจของโซลชา คือการทำให้ทีมดวลกับเหล่าทีมใหญ่ร่วมลีกได้อย่างสูสีแล้วล่ะก็ ตรงจุดนี้เขาก็ล้มเหลวอย่างร้ายแรงหากเทียบกับผลงานที่ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ทำได้ เม็ดเงินกับการเสริมทัพ
จริงอยู่ว่าการจะสร้างทีมที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้นั้นมันจำเป็นต้องมีการควักเงินเสริมทัพกันบ้าง ซึ่งหากได้แชมป์กลับมาแล้วล่ะก็มันก็จะถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แต่ปัญหาก็คือโซลชา ไม่เคยคว้าถ้วยแชมป์มาตกแต่งตู้โชว์ของสโมสรได้เลย
ทั้งที่ทีมในยุคของเขาจ่ายเงินไปเยอะมากจนมียอดหักลบของการซื้อ-ขายนักเตะอยู่ที่ -312.1ล้านปอนด์ ทั้งนี้ หากนับเฉพาะตั้งแต่ที่โซลชา เข้ามากุมบังเหียนทีม แล้วล่ะก็แมนฯยูไนเต็ด ก็ถือเป็นทีมที่มีผลต่างด้านการซื้อ-ขายนักเตะที่แย่ที่สุด
ทิ้งห่าง อาร์เซน่อล ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ -279.7ล้านปอนด์ แบบไกลสุดกู่ หรือถ้าจะเปรียบเทียบเฉพาะกับ 3 คนที่อยู่ในตำแหน่งมาก่อนหน้าเขาแล้วนั้น โซลชาก็เป็นคนที่ใช้เงินไปกับการเสริมทัพมากที่สุด ด้วยจำนวนรวม 441ล้านปอนด์
แย่จริงหรือ เพื่อแลกกับการได้นักเตะ 13 คน ขณะที่ มูรินโญ่ ใช้งบไป 430.8 ล้านปอนด์ในการเซ็นสัญญากับ 12 แข้ง นอกจากนี้ 10 การเสริมทัพที่แพงระยับที่สุดของแมนฯยูไนเต็ด นับตั้งแต่หมดยุคของ เฟอร์กูสัน นั้น ยังเป็นการช็อปในสมัยของโซลชา ไปถึง 5 รายด้วย เลวานช่วยไม่ไหว